นักเรียนเก่า ที่มีชื่อเสียง

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์


วัยเด็กและการศึกษา

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เกิดและเติบโตในย่านเยาวราช ในครอบครัวที่ทำธุรกิจนำเข้าและผลิตเสื้อผ้าผ้ายีนส์ยี่ห้อ ฮาร่า โดยปัจจุบันธุรกิจนี้ดูแลโดยเลิศชัย กมลวิศิษฎ์ พี่ชาย

ชูวิทย์จบชั้นประถมศึกษาจาก โรงเรียนสหพาณิชย์ (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของตึกชาญอิสสระ) มัธยมต้น โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา มัธยมปลาย โรงเรียนเทพศิรินทร์ (รุ่น 19-21)ปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโท มหาวิทยาลัยซานดิเอโก สหรัฐอเมริกา และหลังจากเข้าสู่วงการเมือง และ พ.ศ. 2548 โดนศาลรัฐธรรมนูญปลดออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพราะว่าสังกัดพรรคชาติไทยไม่ถึง 90 วัน จึงมาศึกษาต่อในหลักสูตร รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สำเร็จการศึกษาและเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร รัฐศาสตรมหาบัณฑิต เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2551


ธุรกิจ

       หลังจบการศึกษาจากสหรัฐอเมริกา ชูวิทย์หันมาทำธุรกิจของตัวเอง เปิดอาบ อบ นวด
ชื่อ วิคทอเรีย ซีเคร็ท และขยายกิจการจนเป็นเจ้าของอาบอบนวด 6 แห่ง ในเครือเดวิสกรุ๊ป และก่อตั้งมูลนิธิต้นตระกูลกมลวิศิษฎ์ ให้การสนับสนุนก่อสร้างป้อมยามที่พักเจ้าหน้าที่ตำรวจตามแยกไฟแดง ต่อมาได้เกิดความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกมาเปิดเผยเรื่องส่วย เป็นเรื่องที่เกรียวกราว จนได้รับฉายาว่า เสี่ยอ่าง หรือ จอมแฉ จนเกิดผลกระทบกับธุรกิจอาบอบนวด

นอกจากนั้น ชูวิทย์ เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ภาติฌาน จำกัด, บริษัท ซี.ดี แลนด์ จำกัด, เจ้าของ บริษัท สุขุมวิท ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด, กรรมการบริษัทสุขุมวิท ซิลเวอร์สตาร์ และ ประธานบริษัท เดวิสกรุ๊ป ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด


ก่อตั้งพรรครักประเทศไทย

นวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รับรองพรรครักประเทศไทย และรับรองสถานะชูวิทย์ให้เป็นหัวหน้าพรรครักประเทศไทย  มีสโลแกนว่า “ฉันรักคุณ”

โดยในการเลือกตั้งทั่วไปในปี พ.ศ. 2554 ชูวิทย์ได้แถลงข่าวเปิดตัวพรรครักประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศว่าจะเป็นฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบรัฐบาล


อ้างอิง    วิกิพีเดีย