|
สพฐ.คลอด แผนรับนร. ปี58
บันทึกโดย Admin 20 ส.ค. 2557
สพฐ.เตรียมประกาศแผนรับนักเรียนปี 58 ลดสัดส่วนเด็กในพื้นที่บริการลง 10 % ส่วน ม.3ขึ้น ม.4 ให้รับทุกคน เฉพาะที่ผลการเรียนเฉลี่ย 2.00 ขึ้นไป
ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)วันนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบแนวปฏิบัติการรับนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ประจำปีการศึกษา 2558 ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ
ลดสัดส่วนการรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการลง 10% จากเดิมรับไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ปรับเป็นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 และให้อำนาจโรงเรียนพิจารณาเองว่า จะเลือกใช้การคัดเลือกนักเรียนในพื้นที่บริการด้วยวิธีใดโดยอาจรับโดยการสอบคัดเลือกทั้งหมด หรือ โดยการจับฉลากทั้งหมด หรือ สอบคัดเลือกผสมผสานกับการจับฉลาก
“หากมีนักเรียนในพื้นที่บริการมาสมัครไม่เต็มโควตาโรงเรียนสามารถนำที่นั่งที่เหลือไปรับนักเรียนนอกพื้นที่บริการได้ โดยใช้วิธีการสอบคัดเลือกและใช้คะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานหรือโอเน็ตในสัดส่วน 20% มาร่วมพิจารณาด้วย"เลขาธิการกพฐ.กล่าวและว่า สำหรับสาเหตุที่ลดสัดส่วนรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการลง เพราะจำนวนนักเรียนในเขตพื้นที่บริการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการเกิดที่ลดลง ขณะเดียวกันการคมนาคมที่สะดวกมากขึ้น ทำให้นักเรียนเลือกเข้าโรงเรียนนอกพื้นที่บริการได้มากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง สพฐ.จึงให้ลดสัดส่วนรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการลงซึ่งจะส่งผลในแง่ดีทำให้นักเรียนตั้งใจเรียนมากขึ้นเพื่อสอบเข้าตามโรงเรียนต่าง ๆ ได้
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับจำนวนนักเรียนต่อห้องเรียน ในปีการศึกษา 2558 จะยึดตามเกณฑ์เดิม คือ ไม่เกินห้องละ 50 คน และให้รับเพียงรอบเดียวไม่มีการขอขยายห้องเรียน ส่วนการรับนักเรียนในเงื่อนไขพิเศษก็เป็นตามเกณฑ์เดิมเช่นกัน ซึ่งมีอยู่ 7 ประเภท ได้แก่ การรับนักเรียนยากไร้ด้อยโอกาส บุตรข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา การรับนักเรียนตามข้อตกลงการจัดตั้งโรงเรียน เป็นต้น ทั้งนี้จะต้องประกาศให้ชัดเจนว่าจะรับนักเรียนตามเงื่อนไขพิเศษจำนวนเท่าใด
ส่วนการรับนักเรียนชั้น ม.4 นั้น ให้โรงเรียนรับนักเรียนที่จบ ม.3 ทุกคน และต้องได้คะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 2.00 หากมีที่นั่งเหลือให้รับนักเรียนภายนอกได้โดยการสอบคัดเลือก
ที่มา : http://www.dailynews.co.th
ผู้เข้าชม : 2244