|
|
สทศ. เพิ่งตื่น เตือน มีคน ''มั่ว'' จัดอันอับ รร.
บันทึกโดย Admin 07 ม.ค. 2558
เตือนจัดอันดับ 100 ร.ร.ดีที่สุด"เต้า"ข้อมูลกันเอง พ่อแม่-นร.อย่าหลงเชื่อสทศ."ใบ้"สนิทไม่รู้ใครทำ
สทศ.ลั่นไม่มีนโยบายจัดอันดับคุณภาพ ร.ร.ระบุไม่รู้ที่มาว่าผู้จัดนำคะแนน O-NET มาจากที่ใดเหตุ สทศ.จะส่งตรงไปยัง ร.ร.และต้องใช้รหัสในการเข้าดู ฝากเตือน ผู้ปกครอง นร.รับข่าวสารอย่างรอบคอบ ชี้การจัดอันดับต้องมีหลักวิชา และพิจารณาหลายองค์ประกอบทั้งต้องระบุหน่วยงานเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด
รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลการจัดอันดับ 100 โรงเรียนที่มีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2556 ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์กในเวลานี้ โดยระบุว่ามีการนำคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) เป็นหนึ่งในองค์ประกอบการพิจารณา ว่า สทศ.ไม่มีนโยบายจัดอันดับคุณภาพของโรงเรียน ดังนั้นข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มาจาก สทศ. แน่นอน เพราะ สทศ.มีนโยบายชัดเจนว่าการจัดสอบเพื่อนำผลไปใช้ในการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเด็กไทยให้ดีขึ้น ซึ่งการจัดสอบแต่ละประเภทก็มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป เช่น การทดสอบ O-NET เพื่อเป็นการทดสอบความรู้และความคิดรวบยอดก่อนสำเร็จการศึกษาในแต่ละระดับการศึกษา และนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ตนไม่แน่ใจว่าผู้จัดอันดับ 100 คุณภาพโรงเรียน ทราบคะแนน O-NET ของแต่ละโรงเรียน และนำไปจัดอันดับได้อย่างไร เพราะปกติแล้ว สทศ.จะส่งคะแนนของโรงเรียนไปให้แต่ละโรงเรียน โดยจะมีรหัสสำหรับใช้ในการเข้าไปดูคะแนนของนักเรียน และค่าเฉลี่ยของคะแนนรวมต่างๆ ของโรงเรียน ทั้งนี้ ไม่ว่าจะได้คะแนน O-NET มาด้วยวิธีใด แต่การนำไปใช้จัดอันดับก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของผู้จัด
“การจัดอันดับนั้นจะต้องมีหลักวิชาในการจัด และต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบ จึงฝากเตือนไปยังผู้ปกครอง และนักเรียนว่า ควรจะพิจารณาข้อมูลให้ดีว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการจัดอันดับควรจะต้องมีการระบุหน่วยงานที่จัดด้วย เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด” รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าว
รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลการจัดอันดับ 100 โรงเรียนที่มีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2556 ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์กในเวลานี้ โดยระบุว่ามีการนำคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) เป็นหนึ่งในองค์ประกอบการพิจารณา ว่า สทศ.ไม่มีนโยบายจัดอันดับคุณภาพของโรงเรียน ดังนั้นข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มาจาก สทศ. แน่นอน เพราะ สทศ.มีนโยบายชัดเจนว่าการจัดสอบเพื่อนำผลไปใช้ในการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเด็กไทยให้ดีขึ้น ซึ่งการจัดสอบแต่ละประเภทก็มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป เช่น การทดสอบ O-NET เพื่อเป็นการทดสอบความรู้และความคิดรวบยอดก่อนสำเร็จการศึกษาในแต่ละระดับการศึกษา และนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ตนไม่แน่ใจว่าผู้จัดอันดับ 100 คุณภาพโรงเรียน ทราบคะแนน O-NET ของแต่ละโรงเรียน และนำไปจัดอันดับได้อย่างไร เพราะปกติแล้ว สทศ.จะส่งคะแนนของโรงเรียนไปให้แต่ละโรงเรียน โดยจะมีรหัสสำหรับใช้ในการเข้าไปดูคะแนนของนักเรียน และค่าเฉลี่ยของคะแนนรวมต่างๆ ของโรงเรียน ทั้งนี้ ไม่ว่าจะได้คะแนน O-NET มาด้วยวิธีใด แต่การนำไปใช้จัดอันดับก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของผู้จัด
“การจัดอันดับนั้นจะต้องมีหลักวิชาในการจัด และต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบ จึงฝากเตือนไปยังผู้ปกครอง และนักเรียนว่า ควรจะพิจารณาข้อมูลให้ดีว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการจัดอันดับควรจะต้องมีการระบุหน่วยงานที่จัดด้วย เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด” รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าว
เพื่อตอบคำถามนี้
“มติชนออนไลน์” ได้สอบถามไปยังผู้ดูแลระบบของเว็บไซต์เด็กดี ซึ่งก็ได้รับคำตอบที่น่าตกใจว่า “เว็บไซต์เด็กดีเป็นเพียงเวปกลาง คือ จะมีสมาชิกของเด็กดี โพสข้อมูลดังกล่าว แต่เว็บเด็กดีไม่ได้เป็นผู้จัดทำข้อมูล 100 อันดับโรงเรียน แต่อย่างใด”
ผู้ดูแลระบบของเว็บไซต์เด็กดี ยังกล่าวต่อไปอีกว่า "กระทู้ไหนที่ไม่มีการอ้างแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ทางเราจะพยายามให้คนดูแลตามลบกระทู้ดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมา ทางเว็บได้รับการติดต่อจากทีมงานของ ช่อง 3 ที่เห็นข้อมูลการจัดอันดับดังกล่าว ซึ่งทางเราได้ปฏิเสธไปว่าไม่ได้เป็นผู้จัดทำ และทางกระทรวงศึกษาธิการก็ทำการจัดอันดับเพียงแค่เรื่องผลการสอบ O-NET ซึ่งก็ไม่สามารถใช้เป็นเกณฑ์ในการจัดอันดับ 100 โรงเรียนได้แต่อย่างใด ฉะนั้น ยืนยันว่า การจัดอันดับ 100 โรงเรียนที่ดีที่สุดนั้น ไม่มีที่มาที่ชัดเจน แต่อย่างใด "(http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1364911432)
ที่มา : http://www.niets.or.th/index.php/news_events/view/606/3
ผู้เข้าชม : 13623