นักเรียนเก่า ที่มีชื่อเสียง

นายโอสถ โกศิน


เกิดวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2456 เป็นบุตรของพระยุติชาญดำรงเวทย์ อดีตตุลาการ และ นางยุติชาญดำรงเวทย์ (กิมเหนอ) นายโอสถ โกศิน ได้สมรสกับ น.ส.ลมุลศรี เลิศดำริห์การ พาณิชย์ศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (บุตรีขุนเลิศดำริห์การ อดีตประธานกรมการหอการค้าไทย และอดีตนายกเทศมนตรีนครกรุงเทพฯ) เมื่อวันที่ 27 พ.ศ. 2494 ปัจจุบันคือ คุณหญิงลมุลศรี โกศิน โดยได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตติยจุลจอมเกล้า
ประวัติข้างต้นนี้ ท่านโอสถ โกศิน ได้เป็นผู้บันทึกไว้ด้วยตนเอง เมื่อ พ.ศ. 2543 สำหรับบุคคลทั่วไปที่ได้รู้จักใกล้ชิดกับท่าน ย่อมทราบดีว่าท่านเป็นผู้ที่มีความโอบอ้อมอารี มีบุคคลเป็นจำนวนมากที่ได้รับการอุปถัมภ์เปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น โดยที่ท่านมิได้หวังผลตอบแทนแต่อย่างใด มีเมตตาต่อผู้ร่วมงานและผู้น้อย ท่านมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ อีกทั้งยังเป็นผู้ใฝ่หาความรู้ตลอดเวลา และไม่ยอมใช้วันเวลาให้ผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมทำคุณประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมในทุกด้านที่ท่านสามารถจะทำได้ และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอย่างสูง ด้านศาสนายังได้เป็นผู้ก่อตั้งกองทุนปลูกรากแก้วศาสนทายาท วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่ภิกษุสามเณร โดยทั่วไป ท่านจึงเป็นผู้สูงวัยที่ถึงพร้อมด้วยคุณสมบัติประเสริฐนานัปการ อันนับเป็นบุคคลตัวอย่างสำหรับบุคคลรุ่นหลังจะถือเป็นแบบอย่าง
แม้ว่าท่านจะเป็นผู้ที่ทำงานอย่างจริงจัง แต่ก็ได้แบ่งเวลาสำหรับการผ่อนคลายกับครอบครัวและงานอดิเรกของท่าน เช่น การอ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ดูแลไม้นานาชนิดในสวนที่บ้าน และพบปะกลุ่มเพื่อนที่ใกล้ชิดเป็นประจำ ท่านเป็นผู้มีอารมณ์ขันและทันเหตุการณ์ของบ้านเมืองตลอดเวลา ท่านจึงเป็นผู้อาวุโสที่ทันสมัย จนถึงวาระสุดท้าย เมื่อพ้นภาระจากการเป็นกรรมการในหน่วยงานต่างๆ ในช่วงสุดท้ายท่านได้ใช้ชีวิตด้วยความสงบสุข แวดล้อมด้วยสมาชิกในครอบครัว และญาติมิตรอย่างอบอุ่น และถึงแก่อนิจกรรม โดยความสงบด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2549 สิริรวมอายุ 93 ปี 2 เดือน 24 วัน
ประวัติการศึกษา

พ.ศ. 2472 จบประโยคมัธยมบริบูรณ์ โรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์ (อายุ 16 ปี)
พ.ศ. 2474 จบวิชากฎหมายชั้นเนติบัณฑิต (อายุ 18 ปี)
พ.ศ. 2497-2500 ไปศึกษาวิชากฎหมายต่อ ณ ประเทศอังกฤษ สำเร็จเป็นเนติบัณฑิต จากสำนักลินคอนส์อินน์ (อายุ 44 ปี)
พ.ศ. 2506 จบการศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 6
พ.ศ. 2512 รับการอบรมนักบริหารรุ่นที่ 18
18 กันยายน 2529 ได้รับพระราชทานปริญญารัฐประศาสนาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
การทำงาน




เมื่อจบการศึกษาวิชากฎหมายจากโรงเรียนกฎหมายชั้นเนติบัณฑิตแล้ว เข้ารับราชการในกระทรวงยุติธรรม ตำแหน่งธุรการอยู่ 7 ปี เพื่อรอเวลาให้มีอายุครบ 25 ปี จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้พิพากษาตาม พ.ร.บ.ตุลาการ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2481-2484 ต่อมาในปี พ.ศ. 2485-2489 จึงได้โอนไปรับราชการกระทรวงพาณิชย์ ในตำแหน่งหัวหน้ากอง และลาออกจากราชการ ในปี พ.ศ. 2489
หลังจากลาออกจากราชการแล้ว ได้มาประกอบอาชีพส่วนตัว โดยเริ่มด้วยการตั้งสำนักงานทนายความ แล้วต่อมาจึงทำการค้าและอุตสาหกรรม เช่น ตั้งโรงงานกลั่นแอลกอฮอล์ โรงงานสุรา โรงงานผลิตแชลแลค ก่อตั้งธนาคาร และบริษัทประกันภัย ตั้งบริษัทส่งยางไปต่างประเทศ และทำการจัดสรรที่ดิน งานชิ้นสุดท้าย คือ ซื้อวังบูรพาภิรมย์และสร้างเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกในกรุงเทพฯ หลังจากนั้นจึงเลิกกิจการค้าไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ เพื่อศึกษาวิชากฎหมาย ณ ประเทศอังกฤษ เมื่อจบกลับมาแล้วเข้าเป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชากฎหมาย ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน และโรงเรียนสืบสวนของกรมตำรวจ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2503 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสินค้าขาออก สำนักงานรัฐมนตรี และได้รับแต่งตั้งให้ทำงานพิเศษ อาทิ กรรมการบริหารของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และเป็นประธานคณะกรมการฯ อยู่ระยะหนึ่ง
งานการเมือง
โอสถ โกศิน ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. 2512 และเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2515 จากนั้นได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาลของนายสัญญา ธรรมศักดิ์ และได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติอีก 2 สมัย และเป็นสมาชิกวุฒิสภาต่อเนื่องอีก 3 สมัย
ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ผลักดันและดำเนินการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกของประเทศไทยขึ้น คือ นิคมอุตสาหกรรมบางชัน เมื่อปี พ.ศ. 2516[2]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์

พ.ศ. 2535 - เหรียญสมนาคุณสภากาชาดไทย ชั้น 1
พ.ศ. 2531 - ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.)
พ.ศ. 2517 - มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
พ.ศ. 2509 - มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)